เมื่อพฤติกรรมผู้ขับขี่เปลี่ยนไป การพกพาใบขับขี่รถยนต์ก็ถึงเวลาเปลี่ยนแปลง
ใบขับขี่รถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซค์ ที่คนทั่วไปเรียกกันจนติดปากว่า “ใบขับขี่” จัดเป็นเอกสารประจำตัวบุคคลที่ออกโดยหน่วยงานราชการฉบับหนึ่ง ที่มีไว้สำหรับยืนยันตัวตนบุคคลได้ นอกจากนี้ยังเป็นหลักฐานการันตีถึงความสามารถในการขับยวดยานพาหนะในแต่ละประเภทได้อีกด้วย ดังนั้นไม่ว่าใครก็ตามที่ต้องการขับรถมอเตอร์ไซค์ ขับรถยนต์ส่วนตัว หรือขับรถรับจ้างสาธารณะไปบนท้องถนน จำเป็นจะต้องมีการดำเนินการเข้าอบรมและได้รับการทดสอบในรูปแบบต่าง ๆ ตามที่กรมขนส่งทางบกกำหนดไว้ เพื่อให้ได้รับใบอนุญาตในการขับขี่รถบนท้องถนนมาใช้นั่นเอง
ซึ่งในสมัยก่อนนั้นผู้ขับขี่รถทุกประเภทจะต้องพกพาเอาใบขับขี่ตัวจริงติดตัวไว้ทุกครั้งเมื่อใช้รถใช้ถนน เนื่องจากเป็นกฎหมายจราจรเบื้องต้นที่ต้องปฏิบัติตาม ซึ่งหากมีผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎจราจรดังกล่าว ก็จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้มีหน้าที่กำกับดูแลเขียนใบสั่งเทียบปรับให้นำไปจ่ายค่าปรับที่สถานีตำรวจต่อไป ซึ่ง “อัตราค่าปรับสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ”
แต่เนื่องจากในปัจจุบันด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ประกอบกับพฤติกรรมของผู้ขับขี่ที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้กฎหมายจราจรถูกอัพเดตเปลี่ยนแปลงให้มีความทันยุคทันสมัยกับการปฏิบัติตัวของผู้คนในสังคมเพิ่มมากขึ้น โดยข้อที่เชื่อว่าจะสะดวกกับคนส่วนใหญ่ก็คือ การที่กฎหมายอนุญาตให้พกพาใบขับขี่ในรูปแบบสำเนาภาพถ่ายแทนการพกพาใบขับขี่รถยนต์แบบตัวจริงได้ โดยมีรายละเอียดของตัวบทกฎหมายดังนี้
รายละเอียดกฎหมายจราจรที่เปลี่ยนแปลงไปเกี่ยวกับการพกพาใบอนุญาตขับขี่
ตามประกาศพระราชบัญญัติฉบับใหม่ที่ออกในราชกิจจานุเบกษา เกี่ยวกับ “กฎหมายจราจรทางบก ฉบับที่ 12 พ.ศ. 2562 มาตรา 31/1” มีใจความสำคัญว่า “ในขณะขับรถในทางเดินรถ ผู้ขับขี่ต้องมีใบอนุญาตขับขี่อยู่กับตัวและต้องแสดงต่อเจ้าพนักงานจราจรเมื่อขอตรวจ ในกรณีที่ผู้ขับขี่แสดงใบอนุญาตขับขี่ด้วยวิธีการทางข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ หรือสำเนาภาพถ่ายใบอนุญาตขับขี่ตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด ให้ถือว่าผู้ขับขี่มีใบอนุญาตขับขี่อยู่กับตัวแล้ว” ซึ่งความตามกฎหมายนี้จะมีผลบังคับใช้จริงทันทีในวันที่ 9 กันยายน 2562 เนื่องจากยังต้องรอประกาศจากกรมขนส่งทางบกอย่างเป็นทางการเสียก่อนว่ารูปแบบภาพถ่ายใบขับขี่ที่ให้สามารถใช้งานได้นั้นมีเงื่อนไขอย่างไรบ้างนั่นเอง และสำหรับใครก็ตามที่ยังไม่รู้ว่าใบขับขี่รถยนต์แบบอิเล็กทรอนิกส์เป็นอย่างไร วันนี้เรามีคำอธิบายมาให้ด้วย ดังนี้
ลักษณะของใบขับขี่แบบอิเล็กทรอนิกส์เป็นอย่างไรไปดูกัน
ใบขับขี่รถยนต์แบบอิเล็กทรอนิกส์นั้นได้มีการเริ่มอนุญาตให้ใช้งานได้จริงตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา โดยวิธีการลงทะเบียนคือต้องทำในสมาร์ทโฟนผ่านแอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า “DLT QR LICENCE” ซึ่งไม่ว่าผู้ใช้งานโทรศัพท์จะใช้ระบบ Android หรือ ระบบ iOS ก็สามารถดาวน์โหลดใช้งานได้ทั้งสิ้น ซึ่งข้อมูลผู้ใช้งานที่นำมาใช้ลงทะเบียนได้ง่าย ๆ ก็คือเบอร์โทรศัพท์ โดย 1 เบอร์สามารถใช้ได้ต่อใบขับขี่ 1 ใบ เมื่อลงทะเบียนแล้วก็แค่สแกน QR Code ที่อยู่ด้านหลังของใบขับขี่ตัวจริง เท่านี้ผู้ใช้งานก็จะได้รับข้อมูลใบขับขี่ที่เหมือนตัวจริงทั้งทางด้านหน้าและด้านหลังเก็บเอาไว้ในโทรศัพท์กันแล้ว นอกจากนี้ยังได้มีการพัฒนาฟีเจอร์ในแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับการขอความช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน หรือเอาไว้ติดตามข่าวสาร ตลอดจนข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้รถใช้ถนนไว้คอยให้บริการแก่ผู้ใช้งานอีกด้วย ซึ่งต้องบอกเลยว่าแอปพลิเคชันนี้ตอบโจทย์ความสะดวกสบายให้แก่คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ดีอย่าให้การพกพาใบขับขี่รถยนต์เป็นเพียงสิ่งที่ทำเพื่อการหลีกเลี่ยงจากการไม่ต้องถูกดำเนินการทางกฎหมายเท่านั้น ควรให้ความใส่ใจ ตั้งใจจริงในการขับรถ กล่าวคือขับรถอย่างมีความระมัดระวัง มีน้ำใจให้ผู้ร่วมทาง ไม่ประมาท เช่น ขาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งที่มีการขับขี่รถยนต์ และโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ขับขี่มอเตอร์ไซค์นั้นสมควรเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสวมใส่หมวกกันน็อคตลอดเวลาขณะขับรถ เนื่องจากมีโอกาสในการที่จะประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนสูงกว่ารถยนต์นั่นเอง
ชอปปิงกับ Shopee ในแคมเปญใน 9.9 แคมเปญใหญ่เอาใจนักชอปแบบจัดหนักจัดเต็ม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://shopee.co.th/m/99